**ไม่อนุญาตให้คัดลอกลงเว็บไซต์อื่นนะจ๊ะ … แต่อนุญาตให้แชร์จากเพจหรือนำลิงค์จากเว็บไซต์ไปใช้ได้ ^^**
แปลโดย : แอดมินอีเจ้
เครดิตเพจ : เพจคอมเม้นท์แฟนกีฬาต่างชาติ
เครดิตเว็บ : www.ejcomment.com
บางภาษาแปลจากโปรแกรมอัตโนมัติ หากผิดพลาดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
ความคิดเห็นชาวเวียดนามหลังรัฐมนตรีศึกษาไทยยกเวียดนามเป็นตัวอย่างในการปฏิรูปการศึกษา
เว็บไซต์ Dân trí ของเวียดนามได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับการศึกษาไทย ในพาดหัวข่าวไว้อย่างน่าสนใจว่า : รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการของไทยยกเวียดนามเป็นตัวอย่างในการปฏิรูปการศึกษา ในเนื้อหาข่าวกล่าวถึงคำพูดของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาของไทยในปัจจุบัน นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ ที่ได้ยกตัวอย่างการศึกษาประเวียดนามมาเปรียบเทียบกับการศึกษาในประเทศไทย เพื่อนำไปปรับใช้ในการปฏิรูปการศึกษาในประเทศไทย มีเนื้อหาดังนี้
สำนักข่าว Dân trí รายงานว่า นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการของไทยได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Bloomberg เมื่อวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมากว่า “ในปัจจุบันมีเจ้าหน้าที่ที่ไม่ได้สอนจำนวน 20,000 คนในกระทรวงศึกษาธิการทำหน้าที่ดูแลเกี่ยวกับโรงเรียน ขณะที่เวียดนามมีเพียง 70 คนเท่านั้น ที่ทำงานในกระทรวงศึกษาธิการ”
โดยสำนักข่าว Bloomberg ได้เผยบทสัมภาษณ์ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการของไทย ซึ่งยอมรับว่าพวกเขายังคงตามหลังประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค จึงต้องมีการปฏิรูปการศึกษา
เมื่อพิจารณาถึงการสร้างแรงผลักดันที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ นพ.ธีระเกียรติ ก็ตั้งคำถามว่า “ผู้คนจะชอบรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตจากชาติอาเซียน หรือผลิตโดยเทสล่ามากกว่ากัน? คุณกำลังฝันไปใช่ไหม? ขนาดรถจักรยานยนต์เรายังผลิตไม่ได้เลย”
นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการคนที่ 20 ของไทยในรอบ 17 ปี มีนโยบายที่จะสร้างความเป็นเอกภาพให้กับโรงเรียน มหาวิทยาลัย และครู อาจารย์ให้มีมาตรฐานมากขึ้น และเขาก็ยังเน้นในส่วนที่สำคัญทางเศรษฐกิจอย่างเช่น อาหาร สุขภาพ และการท่องเที่ยว
“ความท้าทายหลักอย่างหนึ่งของไทย คือ ผลการสอบ SIPA ล่าสุด ประเทศไทยอยู่ในอันดับ 54 จาก 70 ประเทศ แม้ว่าเราจะทุ่มงบประมาณทางการศึกษาถึง 2.73 ล้านล้านบาท (81,000 ล้านดอลลาร์) ซึ่งเป็นหนึ่งในค่าใช้จ่ายหลักของประเทศก็ตาม ประเทศสิงคโปร์ อยู่ในอันดับที่ 1 ญี่ปุ่น อันดับที่ 2 ไต้หวัน อันดับที่ 4 จีน อันดับที่ 6 และเวียดนามอันดับที่ 8 เรายังระยะห่างพอสมควรกับประเทศเหล่านี้ … แม้ว่าเราจะพยายามทำอะไรหลายๆ อย่างแล้ว แต่มันก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ”
จากการจัดอันดับดังกล่าว แสดงให้เห็นว่านักเรียนไทยทำคะแนนได้น้อยลงอย่างมากในวิชา คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ ตั้งแต่ปี 2012 ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยทั่วไปในระดับนานาชาติ
และ นพ.ธีระเกียรติ กล่าวว่าปัญหาด้านการทุจริตก็เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่ต้องได้รับการแก้ไข
“ถ้าผมเป็นเหมือนกับนักการเมืองคนก่อนๆ ผมคงจะเป็นคนที่รวยที่สุดแล้วในเดือนนี้” เขากล่าว และชี้เห็นว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการใช้งบประมาณกว่า 4 พันล้านบาทที่ไม่ใช่งบประมาณทางการศึกษา
นพ.ธีระเกียรติ กล่าวต่ก่า “มีกลยุทธ์ที่ช่วยให้โรงเรียนและมหาวิทยาลัยมีอิสระในการตัดสินใจซึ่งป็นที่วิธีที่ดีที่สุดที่จะพัฒนา ควรใช้หลักการเดียวกันในการฝึกอบรมครูเพราะว่าที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากการวางแผนของส่วนกลางที่เข้มงวด ทำให้ครูขาดวิสัยทัศน์”
“เว็บไซต์สำหรับการฝึกอบรมครูมักจะการเปิดอบรมเพียง 1-2 ครั้งเท่านั้นหากคุณโชคดี เมื่อวานนี้วันเดียว : มีการเปิดดูถึง 28.8 ล้านครั้ง มันถือเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากที่ได้เห็นเมื่อคุณใช้ระบบการตลาด เมื่อคุณให้อำนาจแก่พวกเขา เมี่อคุณยกเลิกแผนจากส่วนกลาง ผลักดันจากระล่างสู่ระดับบน มันก็จะเกิดปรากฏการณ์ขึ้นมาอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลยในประเทศไทย” เขากล่าวปิดท้าย
ความคิดเห็นชาวเวียดนามเกี่ยวกับข่าวนี้
Anh Nguyen
Các bác lấy thông tin ở đâu mà bảo Việt nam chỉ có 70 người trong bộ giáo dục? Nếu nói đến quan chức không dạy mà làm công tác điều hành, quản lý ở các trường, phòng, sở và bộ giáo dục chắc không thể ít hơn 20.000 người.
คุณไปเอาข้อมูลมาจากไหนว่าเวียดนามมีเจ้าหน้าที่ในกระทรวงศึกษาธิการอยู่แค่ 70 คน? ถ้าพูดถึงเจ้าหน้าที่ทำงานด้านบริหารไม่ได้สอนดูแลจัดการโรงเรียนและห้องเรียน ในกระทรวงศึกษาธิการก็ไม่น่าจะต่ำกว่า 20,000 คนนะ
Aba
Dù rằng nghành gd Vientam có cải cách nhưng còn xa vời với các nước trong khu vực. Vietnam đừng kiêu ngạo
แม้ว่าเวียดนามกำลังปฏิรูปอุตสาหกรรม แต่มันก็ยังคงห่างไกลกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค … เวียดนามอย่าเพิ่งทะนงตนไป
Tùy Duyên
Hoan hô bộ trưởng… tư duy đổi mới nhất định thành công.
เชียร์ท่านรัฐมนตรี … ความคิดที่สร้างสรรค์จะทำให้ประสบความสำเร็จได้
Nguyễn Chí Thanh
Mình hãy tự đánh giá mình, ko ai hiểu chúng ta bằng chính chúng ta đâu, đừng nghe bên ngoài nhận xét tốt là tự mãn rồi, thực tế cho thấy chúng ta vẫn loay hoay cải cách chứ đã đâu vào đâu đâu.
เรากลับมาประเมินตัวเองดีกว่า, ไม่มีใครเข้าใจเราเท่ากับตัวเราเองหรอก, อย่าเอาความคิดเห็นดีๆ จากภายนอกแล้วทำให้เราเหลิง … ความจริงก็คือเรายังคงดิ้นรนปฏิรูปอยู่ในทุกๆ ที่
Phong Nguyen
Qua Thailand mới thấy họ lái xe không nghe tiếng kèn xe. Cái đó bắt nguồn từ giáo dục. Hơn Việt Nam lắm. Đừng nghe người ta nói thế mà mình mừng.
ในประเทศไทยพวกเขาขับรถโดยที่ไม่มีเสียงแตรเลย ซึ่งก็มาจากการศึกษา ที่มากกว่าเวียดนาม ดังนั้นอย่าไปสนใจคนที่อวยให้เราเหลิงเลย
Ho Cu
TUYỆT VỜI!
ยอดเยี่ยม
Khanh Vo Huu
Tin không??.
สามารถเชื่อได้ไหม??
Hoahong
Thật ko rứa ?
เรื่องจริงเหรอ?
Lam Dan
Chả hiểu ông bộ trưởng này lấy thông tin ở đâu ra. Sở giáo dục của một tỉnh nhỏ cũng đã có số nhân viên-chuyên viên là hơn 80 người rồi. Cả nước 60 sở, mỗi sở quản 5-7 phòng giáo dục, cứ thế nhân ra cũng hơn 20 000 người rồi ông ạ
ฉันไม่เข้าใจว่าท่ารัฐมนตรีไปเอาข้อมูลมาจากที่ไหน แค่ในจังหวัดเล็กๆ ก็มีจำนวนเจ้าหน้าที่เกิน 80 คนแล้ว ถ้ารวมทั้ง 60 จังหวัด ซึ่งมีประมาณ 5-7 สำนักงานย่อยๆ ก็น่าจะมีเกิน 20,000 คนแล้ว
Văn Cao Mai
Mình thật sự k tin. Mình thấy giáo dục ở Thái tốt hơn rất nhiều đấy chứ, nhiều cái còn bắt kịp những nước phát triển phương Tây nữa. Ở đây bộ trưởng Thái Lan nói bộ máy có rất nhiều người và cồng kềnh. Mình nghĩ cái này đúng, còn lại giáo dục Thái vẫn tốt hơn VN
ฉันไม่เชื่อหรอก … ฉันมองว่าการศึกษาไทยดีกว่ามาก แต่ก็ยังคงไล่ตามประเทศตะวันตกที่พัฒนาแล้ว ที่ท่านรัฐมนตรีของไทยบอกว่ามีเจ้าหน้าที่จำนวนมากในกระทรวง ฉันคิดว่าถูกต้องแล้ว … การศึกษาไทยยังคงดีกว่าเวียดนาม
Hoang Nguyen
Đây chắc lả hiểu nhầm thôi, 70 người bài báo nói chắc là 70 người thuộc văn phòng Bộ GD&ĐT,
các trung tâm thuộc bộ chứ tính về quản lý giáo dục thì bạn Lam Dan nói có lý,những người không trực tiếp giảng dạy tại các trường học mà làm quản lý giáo dục tính từ Bộ, Sở,Phòng, trường của cả nước cộng vào có khi lại đến 40.000 người cũng nên.
นี่อาจจะเป็นความเข้าใจผิด เจ้าหน้าที่ 70 คนที่กล่าวถึง น่าจะเป็น 70 คนที่ทำงานในส่วนกลางของกระทรวงที่มีหน้าที่บริหารจัดการการศึกษา ส่วนผู้ที่ไม่ได้สอนโดยตรงแต่มีหน้าที่บริหารการศึกษาในสำนักงาน โรงเรียน รวมกันก็น่าจะถึง 40,000 คนได้
เข้าสู่หน้าหลัก >>>ejcomment.com
ไม่อยากพลาดข่าวสารและบทความดีๆ … อย่าลืมกดติดตามด้วยนะจ๊ะ ^^