**ไม่อนุญาตให้คัดลอกลงเว็บไซต์อื่นนะจ๊ะ … แต่อนุญาตให้แชร์จากเพจหรือนำลิงค์จากเว็บไซต์ไปใช้ได้ ^^**
แปลโดย : แอดมินอีเจ้
เครดิตเพจ : เพจคอมเม้นท์แฟนกีฬาต่างชาติ
เครดิตเว็บ : www.ejcomment.com
สื่อเวียดนามเปรียบเทียบประธานเทคนิกของฟุตบอลไทยและเวียดนาม
ฟุตบอลเวียดนาม, ประธานเทคนิกทำหน้าที่เป็นเพียงหุ่นเชิด, และบางครั้งโค้ชของทีมไม่ต้องการให้นักเตะไปเข้าร่วมทีมเนื่องจากไม่มั่นใจในความเป็นมืออาชีพ … แต่ลองมาดูกันว่าประธานเทคนิกของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยเป็นอย่างไร
มีลักษณะพิเศษบางอย่างที่ยากที่จะเปลี่ยนแปลงได้ในช่วงข้ามคืน, แต่ภายใต้ขอบเขตของฟุตบอลเวียดนาม, ประธานเทคนิกจะเข้าร่วมต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับทีมเวียดนามทุกครั้งที่พวกเขาไปแข่งยังต่างประเทศ หรือจะมีการปกป้องโค้ชเมื่อทีมล้มเหลวกลับมา
เรื่องราวเกี่ยวกับประธานเทคนิกของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย (FAT) ได้ดำเนินการแก้ไขทีม U22 ของไทยอย่างทันท่วงทีและประสบความสำเร็จในการป้องกันแชมป์ซีเกมส์ครั้งที่ 29 ถือเป็นสิ่งคุ้มค่าที่ฟุตบอลเวียดนามจะนำมาลองพิจารณาดู
เมื่อทีม U22 ของไทยเริ่มต้นการแข่งขันไม่ค่อยจะสู้ดีนักในซีเกมส์ครั้งที่ 29, โดยเล่นออกเมื่อพบกับทีมอินโดนีเซีย U22 และรูปเกมที่ไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก, นายวิทยา เลาหกุลประธานเทคนิกของไทยก็บินด่วนจากกรุงเทพฯ ไปยังมาเลเซียก่อนกำหนดที่วางแผนเอาไว้ว่าจะไปในรอบรองชนะเลิศ ขณะที่โค้ชวรวุฒิ ศรีมะฆะกำลังตกอยู่สถานการณ์ที่ยากลำบาก, หาทางออกไม่เจอ และมีรูปเกมที่ค่อนข้างน่าเบื่อ
โค้ชวิทยา เลาหกุลอดีตนักเตะทีมชาติไทยในยุค 1970 และเคยไปฝึกฝนกับโค้ชญี่ปุ่นในเจลีก พูดได้ว่าเลยว่าเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่ง โดยเขาเดินทางก่อนกำหนดของแผนที่วางเอาไว้ในทันทีเพื่อให้คำแนะนำและเป็นที่ปรึกษาให้กับโค้ชวรวุฒิ ศรีมะฆะ
ด้วยประสบการณ์ในการฝึกฝนและพัฒนามายาวนาน … มันจึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาในการที่จะช่วยเหลือและสนับสนุนโค้ชวรวุฒิ ศรีมะฆะ แม้นะรู้ว่าโค้ชวรวุฒิเคยเป็นอดีตนักเตะทีมชาติไทยมาก่อน แต่ก็เป็นครั้งแรกของเขาในการพาทีมมาแข่งขันในระดับนานาชาติและต้องป้องกันแชมป์ซึ่งย่อมมีความกดดันเป็นธรรมดา
การปรากฏตัวอย่างทันท่วงทีของวิทยา เลาหกุล ช่วย “เยียวยาอย่างเร่งด่วน” ให้กับโค้ชวรวุฒิ ในทางจิตวิทยานั้น, การสร้างความมั่นใจให้กับโค้ชวรวุฒิ ศรีมะฆะถือเป็นสิ่งที่สำคัญ … และในที่สุดทีม U-22 ของไทยก็เอาชนะอุปสรรคและไปถึงจุดหมายปลายทางได้สำเร็จ
สำหรับทีมชาติเวียดนาม … ใครกับที่ต่อสู้ “เคียงบ่าเคียงไหล่” กับโค้ช? ในช่วงซีเกมส์ครั้งที่ 29 ท่านเลขาสมาคมฯ เล ฮอย อันห์ เขาไม่ได้มีความรู้และเชี่ยวชาญด้านฟุตบอล, ระดับฟุตบอลนานาชาติและแม้กระทั่งการประสานงานกับโค้ชฮู ถังในแง่ของความเชี่ยวชาญ? ตั้งแต่ทีม U16, U19 เมื่อต้องเผชิญกับปัญหาก็ต้องแก้ปัญหาด้วยตัวเอง
ในระดับยุโรปและเอเชีย, ผู้จัดการทีมส่วนใหญ่มักจะเคยเป็นอดีตนักเตะ มีความเป็นมืออาชีพ, มีประสบการณ์, เมื่อทีมหรือโค้ชตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก, เขาก็จะมีบทบาทสำคัญในการเป็นผู้นำทีมทันที ในแง่ของความเชี่ยวชาญนั้น เขาไม่มีอะไรแพ้โค้ชเลย และอาจจะดีกว่าด้วย, ทั้งในเรื่องของความใจเย็นและประสบการณ์ในการแก้ปัญหาที่มากกว่า
สำหรับโค้ชฟุตบอลทีมเวียดนามยังไม่มีเพื่อนร่วมทีมแบบนี้ … ดังนั้นเวลาที่ทีมแพ้พวกเขาก็มักจะเก็บซ่อนตัว และไม่ร่วมรับผิดชอบใดๆ
หลังจากที่โค้ชเหงียน ฮู ถังล้มเหลวในซีเกมส์และกลับประเทศโค้ชคนนี้ก็ต้องเผชิญหน้าต่อสาธารณชนอย่างโดดเดี่ยวอย่างที่ทุกคนทราบกัน, ไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดที่ยืนเคียงข้างและร่วมรับผิดชอบกับโค้ชในการรับมือการความคิดเห็นของสาธารณชน ขณะที่ในแง่ของความเป็นมืออาชีพ, สภาผู้สอนแห่งชาติเวียดนามก็ไม่ได้ช่วยเหลืออย่างทันเวลาแต่ทำได้เพียงแค่วิจารณ์ข้อผิดพลาดเท่านั้น ไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาเหมือนกับประธานเทคนิกของไทยอย่างวิทยา เลาหกุล
สำหรับทีม U23 ของเวียดนามที่เข้ารอบสุดท้ายเอเชีย คัพ U23 ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก … โค้ชปาร์ค ฮัง ซอ ยังไม่คุ้นเคยกับทีม U23 ของเวียดนาม, และก็ไม่ค่อยรู้ข้อมูลของคู่แข่งมากนัก ใครจะเป็นผู้ช่วยสร้างความแข็งแกร่ง, ความกล้าหาญ, ความเชี่ยวชาญให้กับผู้เมื่อต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก?
ภาพจาก FA Thailand
source: http://plo.vn/the-thao/bong-da-quoc-te/u22-thai-lan-vo-dich-sea-games-29-nho-ong-gdkt-742438.html
**โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน สำหรับการแปลในบางภาษาจะใช้เครื่องมือแปลภาษาอัตโนมัติ ซึ่งอาจจะเกิดข้อผิดพลาดขึ้นได้ ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย หากเกิดข้อผิดพลาดในการแปลสามารถแจ้งให้แอดมินทราบเพื่อแก้ไขได้โดยทันที ขอบพระคุณอย่างสูงจ้า**
เข้าสู่หน้าหลัก >>>ejcomment.com
ไม่อยากพลาดข่าวสารและบทความดีๆ … อย่าลืมกดติดตามด้วยนะจ๊ะ ^^
พูดคุยกับเจ้ เมาท์มอยวงการกีฬาติดตามได้ในเพจนี้นะจ๊ะ
อยากรู้เรื่องกฏหมาย ฝากติดตามเพจครบเครื่องเรื่องกฎหมายด้วยนะจ๊ะ