วันที่ 14 เม.ย. ร.ต.อ.เอนก สุตานนท์ ร้อยเวร สภ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งว่าได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวภายในบ้าน เลขที่ 122 หมู่ที่ 3 บ้านหนองหูลิง ต.บัวขาว อ.กุฉินารายณ์ มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ประสิทธิ์ จำปาทุม ผกก.สภ.กุฉินารายณ์ พ.ต.อ.ทินณรัตน์ เพชรพันธ์ศรี รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชกุฉินารายณ์ เพื่อตรวจสอบและเข้าช่วยเหลือ
โดยที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว พบ น.ส.ยุภาวดี ศิริเคน เจ้าของบ้านยืนอยู่หน้าบ้านด้วยอาการตกใจสุดขีด ภายในห้องนอนด้านซ้ายห้องแรก มีชายหนุ่ม 4 คนนอนร้องของความช่วยเหลือ ในสภาพจมกองเลือด ทราบชื่อ คือนายธีรเดช วรรณพฤกษ์ อายุ 21 ปี นายจิระวิน อินทริง อายุ 20 ปี นายอนุสรณ์ ใจหมั่น อายุ 23 ปี และนายฤทธิเดช ศิริเคน อายุ 23 ปี โดยทั้ง 4 ราย อาการสาหัส บางรายมือขาด เจ้าหน้าที่ต้องเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาล ทั้งนี้จากการตรวจสอบภายในห้องที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ยังพบอุปกรณ์ที่กลุ่มวัยรุ่นนำมาประกอบระเบิด ทั้งลูกปิงปอง ดินปืน ตะปู หัวน็อต และเศษเหล็ก จึงยึดไว้ตรวจสอบ
จากการสอบถาม น.ส.ยุภาวดี กล่าวว่า นายฤทธิเดช น้องชายของตน ได้พาเพื่อนเข้ามาที่บ้านในช่วงเช้า ซึ่งระหว่างนั้นตนก็อยู่หลังบ้านเตรียมทำอาหารเลี้ยงในช่วงเที่ยง จนถึงเวลาเกิดเหตุ ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นขึ้นภายในห้อง พอเข้าไปดูปรากฏว่าทั้งน้องชายและเพื่อนน้องรวม 4 คน นอนจมกองเลือดจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าระเบิดนี้มาจากไหน
ด้านพ.ต.อ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า เบื้องต้นการตรวจสอบที่เกิดเหตุเชื่อว่าเหตุระเบิดน่าจะมาจากการแกะระเบิดปิงปอง เนื่องจากพบว่ายังมีระเบิดปิงปองอีกหลายลูกในกระเป๋าแต่เนื่องจากแต่ละคนมีอาการสาหัส คล้ายกันคือมีสะเก็ดติดตามใบหน้าและลำตัว คาดว่าก่อนเกิดเหตุกลุ่มวัยรุ่นน่าจะนั่งล้อมวงกัน เพื่อทำการประกอบระเบิดแต่เกิดพลาด เพราะในที่เกิดเหตุพบอุปกรณ์ประกอบระเบิดปิงปองจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ตำรวจยังพบ ยาบ้าจำนวน 1 เม็ดในที่เกิดเหตุ ซึ่งจากการสอบถามทั้ง 4 คนให้การปฏิเสธ ซึ่งจะได้ให้เจ้าหน้าที่เฝ้าดูอาการเพื่อสอบสวนก่อนดำเนินคดีต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.ทินณรัตน์ เพชรพันธ์ศรี รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุพล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ได้มอบหมายให้ทำการสอบสวน พร้อมส่งเจ้าหน้าที่ชุดอีโอดี และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบ โดยเบื้องต้นคาดว่ากลุ่มวัยรุ่นน่าจะประกอบระเบิดเพื่อให้ใหญ่ขึ้น ซึ่งอาจจะเป็นการเตรียมการที่จะนำไปใช้ก่อเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์หรือไม่ก็ได้ แต่การประกอบคงผิดพลาดจึงทำให้ระเบิดทำงาน ทั้งนี้จะได้ทำการตรวจสอบประวัติย้อนหลังผู้บาดเจ็บทั้ง 4 คน ว่ามีประวัติอาชญากรรมหรือไม่ และจะขอให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติด ก่อนที่จะทำการดำเนินคดีต่อไป
ข่าว : เว็บข่าวสด